Vision & Values
We value loving God through word and action; we value God’s Word as the ultimate authority; we value growing together as an international body of believers.
หลักข้อเชื่อ
เกี่ยวกับพระคริสตธรรมคัมภีร์
เราเชื่อว่าพระคัมภีร์เดิมและพระคัมภีร์ใหม่ที่เขียนไว้แต่เดิมนั้นพระวิญญาณของพระเจ้าทรงดลใจและควบคุมผู้เขียนอย่างเต็มที่ ฉะนั้นพระคริสตธรรมคัมภีร์ทั้งหมดจึงไม่ผิดพลาด เราเชื่อว่า พระคริสตธรรมคัมภีร์ เป็นหนังสือที่พระเจ้าทรงเปิดเผยพระประสงค์ของพระองค์ให้มนุษย์ทราบ เป็นกฎของชีวิตให้ปฏิบัติตาม เราไม่ยอมรับพระคัมภีร์ที่ตีความบิดเบือนไปจากพระวจนะของพระเจ้า (2 ทิโทธี 3:16; 2 เปโตร 1:19-21)
เกี่ยวกับพระเจ้าเที่ยงแท้
เราเชื่อว่าพระเจ้ามีอยู่พระองค์เดียว ซึ่งเป็นพระผู้สร้างฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลก ทรงแสดงพระองค์เป็นสามพระภาค คือ พระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ ทั้งสามพระภาคนี้ทรงฤทธิ์อำนาจและพระเกียรติเท่าเทียมกัน แต่มีหน้าที่ต่างกันและช่วยกันในงานใหญ่ยิ่งคืองานไถ่บาป (มัทธิว 28:19; กิจการ 10:38; 1 ยอห์น 5:7)
เกี่ยวกับพระเยซูคริสต์เจ้า
เราเชื่อว่าพระเยซูคริสต์เจ้าประสูติโดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ และโดยหญิงพรหมจารีย์ ชื่อมารีย์ อย่างเหนือธรรมชาติ พระองค์ทรงเป็น “พระเจ้าที่มาปรากฏในเนื้อหนัง” พระองค์ทรงดำรงชีวิตที่สะอาดหมดจดปราศจากบาป ความตายของพระองค์เป็นการตายแทนบาปของเรา ไม่ใช่เป็นการเสียสละแต่เพียงอย่างเดียวแต่ยังยอมตายแทนคนบาป พระองค์ทรงฟื้นขึ้นมาจากความตายในวันที่สาม และเสด็จขึ้นสู่สวรรค์พร้อมทั้งพระกายของพระองค์ พระองค์จะเสด็จกลับมาสู่โลกนี้อีก เพื่อสถาปนา อาณาจักรของพระองค์และตั้งบัลลังก์ของดาวิดขึ้น การเสด็จมาของพระองค์จะเสด็จมาด้วยพระกาย และขณะนี้ก็ใกล้เวลาที่พระองค์จะเสด็จมาแล้ว (อิสยาห์ 7:14; มัทธิว 1:18-25; 28:6; ยอห์น 1:1; 1 เปโตร 2:22; 1 เธสะโลนิกา 4:16; กิจการ 1:9-11)
เกี่ยวกับพระวิญญาณบริสุทธิ์
เราเชื่อว่าพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นพระเจ้า ทรงมีคุณสมบัติของความเป็นบุคคลและเป็นพระเจ้า ทรงเท่าเทียมกับพระบิดาและพระบุตร และทรงมีพระลักษณะเช่นเดียวกัน ความสัมพันธ์ที่ทรงมีต่อผู้ที่เชื่อและรับความรอดแล้ว คือประทับตราไว้ในใจ สถิตอยู่ด้วย เติมให้เต็มด้วยฤทธิ์อำนาจของพระองค์ ทรงนำและสอนให้รู้จักทางแห่งความชอบธรรม นอกจากนี้แล้วเรายังจะไม่เห็นด้วยกับการพูดภาษาแปลกๆ ในทุกรูปแบบ (ยอห์น 14:16-17, 26; ฮีบรู 9:14; เอเฟซัส 1:13-14; 1 โครินธ์ 6:19; 13:8-10; กิจการ 1:8)
เกี่ยวกับมนุษย์
เราเชื่อว่าพระคริสตธรรมคัมภีร์สอนว่าพระเจ้าทรงสร้างมนุษย์มาให้บริสุทธิ์ปราศจากมลทิน แต่มนุษย์ก็จงใจก้าวออกจากสภาพที่ปราศจากบาป ผลก็คือมนุษย์ถูกตัดขาดจากพระเจ้า ฝ่ายวิญญาณของเขาเป็นคนตายแล้ว ฝ่ายเนื้อหนังก็เป็นคนบาปโดยการเลือกเอาข้างทำบาป ไม่ใช่ฝืนใจทำบาป ฉะนั้นเขาจึงต้องถูกลงโทษให้พินาศตลอดไปโดยไม่มีข้อแก้ตัวใด ๆ (ปฐมกาล 1:27; อิสยาห์ 53:6; โรม 3:23; 5:12, 19)
เกี่ยวกับความรอด
เราเชื่อว่าพระคริสตธรรมคัมภีร์สอนว่า คนบาปจะรอดพ้นจากบาปได้ โดยพระคุณเพราะความเชื่อในข่าวประเสริฐ เท่านั้น พระบุตรของพระเจ้าทรงเป็นคนกลางให้ระหว่างพระเจ้ากับมนุษย์ มนุษย์ไม่ต้องทำอะไรเลย เพียงแต่กลับใจเสียใหม่จากความเชื่อเก่าๆและเชื่อในข่าวประเสริฐ ทันที่ก็จะได้รับความรอดพ้นจากการพิพากษาโทษบาปในนรก คนบาปจะต้องบังเกิดใหม่ ด้วยฤทธิ์อำนาจของพระวิญญาณบริสุทธิ์ แล้วรับเอาชีวิตใหม่ เราเชื่อว่า ข่าวประเสริฐซึ่งพระคริสต์ทรงประทานให้แก่ผู้เชื่อในพระองค์ ทำให้เขาบริสุทธิ์พ้นมลทิน รวมความถึงการให้อภัยบาป และพระเจ้าทรงให้เขาเป็นคนชอบธรรมโดยความเชื่อในพระโลหิตของพระผู้ไถ่ เราเชื่อว่า การแสดงให้เห็นถึงความเชื่อในพระเยซูคริสต์เจ้า ผู้เชื่อก็บริสุทธิ์พ้นจากมลทินบาป ได้รับความรอดซึ่งเขาจะปลอดภัยอยู่ชั่วนิรันดร์ (เอเฟชัส 2:8-10; ยอห์น 3:3-6; 10:28-29; 2 เปโตร 1:4; กิจการ 13:39; 1 ทิโมธี 2:5)
เกี่ยวกับคริสตจักร
เราเชื่อว่า พระคริสตธรรมคัมภีร์สอนว่า คริสตจักรของพระเยชูคริสต์เจ้าที่เรามองเห็นได้นั้น เป็นที่ชุมนุมของผู้เชื่อที่รับพิธีบัพติศมาแล้ว มาสมาคมกันด้วยสัญญา โดยความเชื่อในข่าวประเสริฐ ถือรักษาพระบัญญัติของพระคริสต์ ให้บทพระบัญญัติของพระองค์เข้าควบคุมคริสตจักร และกระทำการถวายทรัพย์ เขาจะมีสิทธิตามพระวจนะของพระองค์ เจ้าหน้าที่ที่พระคัมภีร์กล่าวไว้คือ ศิษยาภิบาลและผู้ช่วย มีคุณสมบัติและหน้าที่ตามที่กล่าวไว้ในจดหมายถึงทิโมธีและทิตัส (มัทธิว 28:19-20; กิจการ 2:41-42; 1 ทิโทธี 3:1-13; ทิตัส 1:5-11; 1 โครินธ์ 16:2)
เกี่ยวกับพิธีบัพติศมาและพิธีระลึก
เราเชื่อว่าพระคริสตธรรมคัมภีร์สอนว่า พิธีบัพติศมาของคริสเตียนคือ ผู้เชื่อได้รับการจุ่มลงในน้ำในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อแสดงให้เห็นเป็นสัญญาลักษณ์ว่าเขาเชื่อใน การถูกตรึงตาย การถูกฝังไว้ และฟื้นขึ้นมาจากความตายของพระผู้ช่วยให้รอด การแสดงออกภายนอกนี้เป็นสัญญาลักษณ์ ของชีวิตใหม่ ซึ่งอยู่ภายใน คือเราผู้ทำบาปตายจากบาป และฟื้นขึ้นมาสู่ชีวิตใหม่ นั่นคือเรามีสิทธิเข้าเป็นส่วนหนึ่งของคริสตจักรได้
เราเชื่อว่า พิธีระลึกเป็นพิธีระลึกถึงการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูคริสต์เจ้าจนกว่าพระองค์จะเสด็จกลับมา และควรจะทำพิธีนี้อยู่ต่อไปเสมอ เพื่อเป็นหมายสำคัญว่า เราจะดำรงความสัมพันธ์ฝ่ายจิตวิญญาณอย่างสนิทแน่นกับพระผู้ช่วยให้รอดของเรา ด้วยการสำรวจดูตัวเองอย่างจริงจัง พิธีระลึกนี้เป็นพิธีสำหรับคนที่ได้รับความรอดแล้วและได้รับพิธีบัพติศมาเรียบร้อยแล้ว (กิจการ 8:36-39; โรม 6:3-5; 1 โครินธ์ 11:23-28)
เกี่ยวกับสภาพอมตะ
เราเชื่อว่า พระคริสตธรรมคัมภีร์สอนว่า ทุกคนที่เป็นคนชอบธรรมโดยการเชื่อในพระเยซูคริสต์จะได้รับความชื่นชมยินดีเต็มที่ ที่ตนได้เข้าเฝ้าพระเจ้าบนสวรรค์ตลอดไป และเชื่อว่า ผู้ที่ไม่กลับใจและไม่เชื่อในข่าวประเสริฐไม่ยอมรับของประทานที่พระเจ้าทรงประทานให้ ด้วยพระเมตตา จะได้รับโทษทัณฑ์อย่างไม่รู้จบสิ้นอยู่ตลอดไปในไฟนรก เราเชื่อว่า มีสวรรค์จริงและมีนรกจริง (สดุดี 16:11; ยอห์น 14:2; มัทธิว 25:34, 41, 46)
เกี่ยวกับมาร
เราเชื่อว่าพระคริสตธรรมคัมภีร์สอนว่า มีมารจริง ซึ่งเป็น “พระของสมัยนี้” และ “ผู้มีอำนาจ ครอบครองในอากาศ” ผู้ซึ่งเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยม มันหาทางจะทำลายพระประสงค์ของพระเจ้าอยู่เสมอ และดักมนุษย์ให้ตกลงสู่บ่วงแร้วของมัน (เอเฟซัส 2:2; 2 โครินธ์ 4:4; 11:13-15; วิวรณ์ 12:9)
เกี่ยวกับการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูคริสต์
เราเชื่อในการฟื้นคืนพระชนม์จากความตาย ขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และเชื่อว่าพระองค์จะทรงเสด็จกลับมาบนเมฆ มารับคริสตจักรก่อนการเสวยสุขพันปีของพระองค์ และก่อนการทนทุกข์เวทนานั้น และพระองค์จะทรงเสด็จมาบนแผ่นดินโลกอีกเป็นครั้งที่สอง (1 เธสะโลนิกา 4:13-17; กิจการ 1:9-11; วิวรณ์ 20:1-4)
เกี่ยวกับความเชื่อ
เราเชื่อในความเชื่อซึ่งเป็นพื้นฐานดั้งเดิมมาแต่ครั้งก่อน เหมือนอย่างที่ปรากฏชัดในพระคัมภีร์และต่อต้านความเชื่อที่ผิด การประนีประนอมหรือการร่วมคบหาสมาคมกับพวกหัวก้าวหน้า และผู้ที่ไม่เชื่อพระคัมภีร์ (ฮีบรู 13:8-9; 2 โครินธ์ 6:14:18)
เกี่ยวกับการรับผิดชอบของคริสเตียน
เราเชื่อว่าเป็นความรับผิดชอบของคริสเตียนทุกคน ที่จะนำผู้ที่หลงหายไปสู่ความรอด และที่จะทำตามแบบอย่างพระคริสต์ โดยการเข้าร่วมกับคริสตจักรที่มีความเชื่อในพระคัมภีร์แบบดั้งเดิม และเป็นคริสตจักรท้องถิ่นที่เราเข้าเป็นส่วนหนึ่งอยู่ในนั้น ดังที่ได้ทรงมีพระบัญชาในพระคริสตธรรมคัมภีร์ใหม่ (มัทธิว 28:19-20; กิจการ 2:41-42; เอเฟซัส 1:22-23)